ข่าวเช้า วันนี้ศาลอุทธรณ์คดีคอร์รัปชั่นและการกระทำผิดเกิดขึ้นกับพี่ชายของอดีตผู้พิพากษาในศาลอาญากลาง นายอภินิดาศักดิ์ ประเสริฐอัยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นโจทก์และโจทก์ร่วมกันดำเนินคดีกับพันโทยินทังปกรณ์และนายมานัท ทับทิมและนายณรงค์ศักดิ์ ชาญมินต์กุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประจิตหรือตั้นศรีหงษ์สุขและพลทั่วไปทองชัยหรืออาเจียสัจจาเป็น 1-6 จำเลยในข้อหาสมรู้ร่วมคิดฆาตกรรม เพื่อปกปิดความผิดอื่นๆหรือเพื่อหลีกเลี่ยงการก่ออาชญากรรมอื่นๆตามบทบัญญัติของกฎหมายอาญา ฐานร่วมกักตัวหรือกักตัวใครเพื่อเรียกค่าไถ่ ส่วนที่สามคือการบังคับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างไม่ถูกต้องโดยการร่วมกันดำเนินการโดยเจตนาการบาดเจ็บโดยบุคคลอื่นหรือมากกว่าสามคน ตามมาตรา 210 ร่วมกันดำเนินการลงโทษประหารชีวิตอาชญากรรมบนพื้นฐานของความพยายามร่วมกันที่จะทำร้ายผู้อื่นโดยการกระทำของห้าหรือมากกว่าห้าคน มาตรา๒๓ซ่อนฐานปฏิบัติการร่วมกันเพื่อทำลายร่างกายซ่อนสาเหตุการตายใดๆร่วมปฏิบัติการฐานจะต้องปลอมตัวเป็นศพก่อนการชันสูตรศพเสร็จสมบูรณ์
ในกรณีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานกักขังร่วมกันทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษประหารชีวิต สมรู้ร่วมคิดฆ่าผู้อื่น โทษประหารชีวิต จำคุก 1 ปี อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ สวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ จำคุก 1 ปี จำคุก 4 ปี ปกปิดการทำลายร่างกาย แต่จำเลยที่ 1 ให้ประโยชน์ลดหย่อนโทษ จำคุก 1 ใน 3 ข้อหาทั้งหมดจะยังคงจำคุกสำหรับจำเลยที่ 1 ทั้งหมดในชีวิตเดียวและให้นับคำพิพากษาของจำเลยที่ 1 หลังคดีโอนหุ้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ซึ่งมีโทษจำคุก 8 ปี
ส่วนจำเลยที่ 2 ได้ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าความผิดฐานมีส่วนในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิตแต่ให้เป็นประโยชน์ โทษจำคุกเหลือ 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 4-6 ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกักขังและกักขัง (เรียกค่าไถ่) ถึงแก่ความตาย แต่ให้เป็นประโยชน์ ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่จำเลยที่ 3 กระทำความผิดโดยเจตนาฆ่า (บุคคล) โทษประหารชีวิตและจำคุกผู้อื่นให้ประหารชีวิต แต่คำให้การช่วยก็ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต ต่อมา อาม่า โจทก์ โจทก์ร่วม จำเลย 1-2 ราย จำเลย 4-6 อุทธรณ์ ขณะที่จำเลยที่ 3 ไม่อุทธรณ์
หลังจากนั้นเขาจะฆ่านายวีระชัยและทำลายศพ โดยใช้ไฟเผายางที่ราดด้วยเชื้อเพลิงซึ่งเป็นการสมรู้ร่วมคิดในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นด้วยหลักฐาน เพื่อเป็นการปิดบังการก่ออาชญากรรม จึงรวบรวมซากจากการเผาแล้วใส่ถุงพลาสติกหลายๆ ใบ ทิ้งตามไปด้วย ทางถนนนิคม-ห้วยดุก อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ แล้วทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหมู่บ้านกลางแดด จ.นครสวรรค์ พร้อมนำ ทรัพย์สินของผู้ตาย เครื่องมือในการกระทำความผิดถูกทิ้งลงในแม่น้ำปิง บริเวณหน้าวัดไทรใต้เพื่อทำลายหลักฐาน